ประวัติความเป็นมาของระบบหัวฉีด PGM – FI
PGM – FI ย่อมาจากคำว่า Programmed Fuel Injection คือ การใช้ระบบ
อิเล็คโทคนิคส์เข้ามาควมคุมการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีปริมาณที่เหมาะสม
กับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สภาวะต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เครื่องยนต์
ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพปริมาณไอเสียต่ำ ประหยัดน้ำมันและให้สมรรถนะ
การขับขี่ที่ดีขึ้น
การจ่ายน้ำมันระบบหัวฉีด PGM-Fi ( Program Fuel injection )
เทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ( Program Fuel injection )
ในประเทศไทยผลิตขึ้นโดยโรงงานผลิต 2 แห่งด้วยกัน คือ
1.บริษัท เคฮิน ออโต้ พาร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2.บริษัท เคฮิน (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน
บริษัท เคฮิน ออโต้ พาร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญในระบบ
PGM-FI ได้แก่ อุปกรณ์สั่งการและควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสมองกลอัจฉริยะ
หรือ ECU (Engine Control Unit)
บริษัท เคฮิน (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย
เรือนลิ้นเร่ง (Throttle Body) ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Pump) และ หัวฉีด (Injector)
การติดตั้งระบบหัวฉีด PGM-Fi แบ่งได้เป็น
ยุคที่ 1 ในประเทศไทยติดตั้งในรถจักรยานยนต์ Honda Wave 125i
วางจำหน่ายเมื่อปี 2546
ยุคที่ 2 ในประเทศไทยติดตั้งในรถจักรยานยนต์ Honda Wave 125i
รุ่นที่ 2 วางจำหน่ายเมื่อปี 2548
ยุคที่ 3 ในประเทศไทย ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ Honda CZ-i
และ Click-i วางจำหน่ายเมื่อปี 2551
จุดเด่นของ PGM-FI ยุคที่ 3 ขนาดที่มีความกะทัดรัด ให้ประสิทธิภาพสูง
ความประหยัด ความสะอาดตลอดจนสมรรถนะและที่สำคัญได้รับการผลิตเพียง
แห่งเดียวที่ประเทศไทยเท่านั้น พร้อมนำส่งออกไปติดตั้งแพร่หลายในรถจักรยานยนต์
ฮอนด้าทั่วโลก
รุ่น CZ-i ขนาด 110 ซีซี แบบ 4 จังหวะ
ส่งผลให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้านี้
ที่มีขนาด 100 ซีซีแบบ 4 จังหวะมีประสิทธิภาพโดดเด่นเหนือกว่าคือ ประหยัดน้ำมัน
มากขึ้น 18% (ทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 MODE) รวมถึงให้สมรรถนะสูงด้วย
อัตราเร่งที่มากขึ้น 25%
รุ่น Click-i ขนาด 110 ซีซี แบบ 4 จังหวะ รถ A.T. ระบบสายพาน
มีผลทำให้สมรรถนะสูง ตอบสนองเต็มกำลัง 110 ซีซี ด้วยอัตราเร่งที่มากขึ้น
ประหยัดน้ำมันมากกว่าฮอนด้า Click รุ่นเดิมถึง 16%
(ทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 mode)
****** วิธีการทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 mode ******
การทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมันตามค่ามาตราฐาน ECE 40 Mode
ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุมการเดินคันเร่งเพื่อให้เกิดความเที่ยงตรง
โดยคอมพิวเตอร์จะสั่งให้ทำการทดสอบหมุนวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงระยะ
ทางที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งวิ่งอยู่กับที่บนเครื่องไดนาโมมิเตอร์เทสต์ หรือ
ไดโนฯเทสต์มีรูปแบบการทดสอบที่ใกล้เคียงกับลักษณะการวิ่งใช้งานจริง
บนท้องถนนของผู้ขับขี่คนไทยทั่วไปใช้อัตราความเร็วไม่คงที่..เฉลี่ย 18.4 กม.ต่อชม.
และใช้ความเร็วสูงสุดในการทดสอบที่ 50 กม.ต่อชม.
รูปแบบการทดสอบ
ทดสอบโดยเร่งจาก 0 ถึง 16 กม./ชม.ที่เวลา 10 วินาที จับความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง
ต่อด้วยการเร่งจาก 0 ถึง 32 กม./ชม.ที่เวลา 20 วินาที จับความเร็วคงที่ 20 วินาที แล้วยกคันเร่ง
จากนั้นให้เร่งจาก 0 ถึง 50 กม./ชม.ที่เวลา 20 วินาที จับความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง
เมื่อความเร็วตกลงมาถึง 35 กม./ชม.ให้เดินคันเร่ง ความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://www.jrmotor.com/